คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2891/2552
กรณีผู้ร้องในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ซึ่งมีสิทธิเหนือทรัพย์สินในสัญญาเช่าซื้อซึ่งเลิกกันมิได้ใช้สิทธิในการติดตามเอาคืนก่อนทรัพย์สินออกขายทอดตลาด จะมีสิทธิกันเงินส่วนของตนก่อนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้หรือไม่
ป.พ.พ. มาตรา 226, 1336
ป.วิ.พ. มาตรา 287, 288
เมื่อสัญญาเช่าซื้อระหว่างผู้ร้องกับจำเลยที่ 2 เลิกกัน ผู้ร้องในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ที่เช่าซื้อย่อมมีสิทธิเหนือทรัพย์สินของตนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336 ซึ่งบัญญัติให้เจ้าของทรัพย์สินนั้นมีสิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ และมีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอดเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาย่อมไม่กระทบกระทั่งถึงสิทธิดังกล่าวของผู้ร้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 287 การที่ผู้ร้องมิได้ใช้สิทธิยื่นคำร้องขอให้ปล่อยรถยนต์ของผู้ร้องที่ถูกเจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ก่อนเอารถยนต์นั้นออกขายทอดตลาดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 288 วรรคหนึ่ง สิทธิของผู้ร้องอันอาจที่จะบังคับเหนือทรัพย์สินในฐานะเจ้าของทรัพย์สินของตนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336 ดังกล่าวย่อมหมดไป เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดก็ไม่ใช่เป็นทรัพย์สินที่เข้าแทนที่รถยนต์ของผู้ร้องในฐานะนิตินัยอย่างเดียวกันกับรถยนต์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินอันก่อนดังที่บัญญัติไว้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 226 วรรคสอง ผู้ร้องไม่มีสิทธิกันเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดดังกล่าว เพื่อชำระให้แก่ผู้ร้องก่อนโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 287 ซึ่งอยู่ภายใต้บังคับของบทบัญญัติมาตรา 288 ได้
รวบรวมโดย : ทนายศศินันท์ จงธนพิพัฒน์ (089-8811786)
SASINUN ATTORNEY AT LAW
รับว่าความทั่วราชอาณาจักร ปรึกษากฎหมาย
คดีแรงงาน คดีแพ่ง ครอบครัว มรดก ผู้บริโภค สัญญา และด้านกฎหมายอื่นๆ
(THAI & ENGLISH)
กฎหมาย และ กฎเกณฑ์การขนส่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2891/2552 กรณีผู้ร้องในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ซึ่งมีสิทธิเหนือทรัพย์สินในสัญญาเช่าซื้อซึ่งเลิกกันมิได้ใช้สิทธิในการติดตามเอาคืนก่อนทรัพย์สินออกขายทอดตลาด จะมีสิทธิกันเงินส่วนของตนก่อนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้หรือไม่
- รายละเอียด
- ฮิต: 4786