สวัสดีปีใหม่ ท่านผู้อ่านที่เคารพ ฉบับนี้ผมขอเล่าเรื่อง เกี่ยวกับ ธุรกิจเกี่ยวกับ freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิดเดอร์)
Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)เป็นอาชีพที่พัฒนามาจากชิปปิ้ง (ตัวแทนของออก) ในอดีต ชิปปิ้งจะทำหน้าที่ หลักคือทำการจัดการทุกขั้นตอนเพื่อให้สินค้าที่ผู้ส่งออก ต้องการให้ผ่านออกไปนอกประเทศให้ได้ ถ้าเป็นส่วนของการนำเข้า ชิปปิ้งจะเป็นตัวแทนของผู้นำเข้าในการทำพิธีการศุลกากร ตัวแทนติดต่อบริษัทสายเรือ สายการบิน บริษัทตัวแทนสายการบิน การท่าเรือ ตลอดจนหน่วยงานราชการต่างๆ ที่ มีข้อกำหนดในบทบัญญัติตามกฎหมาย หรืออาจจะเรียกว่าเป็น "ผู้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร"
พอระบบคอนเทนเนอร์ ได้พัฒนาการขนส่งทางทะเล ให้มีความสะดวก และ รวดเร็วขึ้น ขีดความสามารถของชิปปิ้งที่มีความจำกัดเรื่องภาษาอังกฤษ และ เครือข่าย ณ. เวลานั้น freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) ก็เกิดขึ้น พร้อมกับนักศึกษาของโรงเรียนคอมเมอร์ หรือ สายอาชีพ ทางด้านพาณิชย์ที่เน้ภาษาอังกฤษ อย่างเช่น ACC เป็นต้น รวมทั้ง มหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ใช้ ภาษาอังกฤษ เป็น สื่อการเรียนการสอน ทำให้ ความสำคัญ และ บทบาทของอาชีพ freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิดเดอร์) มีความโดดเด่น ทำให้วงการโลจิสติกส์พัฒนาอย่างชนิดกว้ากระโดด อย่างรวดเร็ว มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงทุกปี ถึงขนาดระดับโลก อย่างที่มีการประชุม FIATA เมื่อต้นเดือนตุลาคม ศกนี้ที่ผ่านมา
สมาคมที่โดดเด่นในวงการ Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) คือ สมาคมตัวแทนขนส่งสินค้าทางอากาศไทย TAFA และ สมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (TIFFA) เป็น 2 สมาคมที่สร้างชื่อเสียงให้คนทั่วไปได้รับรู้ถึงความสำคัญของธุรกิจ Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) อาจจะกล่าวได้ว่า สมาคมแรกจะมุ่งไปที่ตัวแทนขนส่งทางอากาศมากกว่า ส่วนสมาคมที่สอง จะมุ่งไปที่ตัวแทนขนส่งทางด้านทางทะเลและ การขนส่งหลายรูปแบบ
หน้าที่หลักของ Freight forwarder(เฟรทฟอร์เวิดเดอร์)
1. จะเป็นตัวแทนพ่อค้าคนกลาง หรือ อาจจะกล่าวได้ ว่า เป็น คนที่พยายามหาค่าขนส่งสินค้าทั้งทางอากาศ และทางทะเล ให้ได้ราคาที่ถูกที่สุดและดีที่สุด ยกตัวอย่างเช่น
freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)หลายบริษัทจะทำข้อตกลงเซ็นต์สัญญารายปีกับสายการเดินเรือ ว่าจะต้อง หาสินค้าให้ได้จำนวนตู้คอนเทนเนอร์ 1,000 หน่วย ต่อปีไปประเทศสหรัฐอเมริกา แล้ว จะได้ค่าระวางเรือในอัตราถูกพิเศษ ถ้า Freight forwarder นั้นไม่สามารถหาสินค้าได้ถึงจำนวนตู้ที่ได้ตามเป้า ก็จะถูกบริษัทสายเรือเรียกค่าปรับหรือจ่าย ค่าระวางเต็มเท่ายอดเป้า เรียกได้ว่า เป็นพ่อค้าคนกลาง ซื้อจากโรงงาน มาขายเสมือนพ่อค้าขายปลีก หรือขายส่ง กับ เราๆ ท่านผู้ส่งออกรายย่อย ทำให้ ผู้ส่งออกรายย่อยได้มีราคาค่าระวางเรือที่สมเห็นสมผล ส่วนผู้ส่งออกรายใหญก็จะซื้อจากบริษัทสายเรือโดยตรง และไม่ซื้อผ่าน Freight forwarder(เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)
2. เป็นตัวแทนของผู้ส่งออกในการดูแลเส้นทางการขนส่ง คอยจัดการเรื่องการบริหารการขนส่งให้ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ส่งออกสามารถจะได้รับความสะดวกสบายในการติดต่อกับ Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)ที่จุดเดียว หรือ One stop service ผู้ส่งออกจะโทรศัพท์ หรือ ส่ง e-mail ไป Freight forwarder ว่าต้องการให้จัดการขนส่งสินค้า จำนวน 2 CBM (ลูกบาศก์เมตร) หรือ จำนวน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ 20 ฟุต ไปประเทศ แอฟิกาใต้ ท่าเรือ เดอร์บัน( Durban) ถ้า ผู้ส่งออกโทรศัพท์ไปถามบริษัท สายเรือ พนักงานขายบริษัทสายเรือที่รับสายถ้าไม่ได้ดูแล หรือไม่มีบริการในเส้นทางดังกล่าว ก็ ตอบปฎิเสธ บางครั้งผู้ส่งออกก็ต้องรอสาย เป็น ชั่วโมง จากพนักงานขายบริษัทสายเรือ แต่ถ้าท่านผู้ส่งออกโทรศัพท์ไปสอบถามบริษัท Freight forwarder ท่านจะได้รับคำตอบทันที โดยไม่ต้องรอสายโทรศัพท์นาน และบริษัท Freight forwarder จะตอบคำว่า มีบริการในเส้นทางดังกล่าว และเสนอราคาได้ทันที หรือจะเป็นภาระในการตามเช็คกับบริษัทสายเรือหลายสาย โดยที่ท่านไม่ต้องเสียเวลาและหงุดหงิดกับการรอสายที่ยาวนานของแต่ละบริษัทสายเรือ เพราะฉะนั้น ท่านผู้ส่งออกที่ฉลาดและที่ไม่มีเวลา จะเลือกใช้บริการ บริษัท Freight forwarder(เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)
3. บริษัท Freight forwarder สามารถเสนอบริษัท แบบ ครบวงจรได้ แต่บ่อยครั้งจะเปิดโอกาสให้ ผู้ส่งออกเลือกใช้บริการเฉพาะในส่วนของการขายค่าระวางค่าขนส่ง เรือ และ ค่า ระวางค่าขนส่งทางอากาศ เพราะ เป็น งานที่ Freight forwarder จะถือว่า เป็นงานหลัก ถ้าผู้ส่งออก ต้องการให้ Freight forwarder วางบิลเป็นหนึ่งใบรวมทั้งค่าบริการตัวแทนออก ค่าขนส่งทางรถบรรทุก และค่า ระวางเรือ หรือ อื่นๆ บริษัท Freight forwarder ก็ยินดีที่จะรับผิดชอบตามที่แผนกบัญชีของบริษัทผู้ส่งออกต้องการ พร้อมทั้งมีการให้วงเงินเครดิตสำหรับ บริษัทผู้ส่งออกที่มีการเงินที่น่าเชื่อถือ สิ่งนี้ทำให้ผู้ส่งออกสามารถได้รับความสะดวกในการหมุนเงินโดยอาศัยเครดิตที่ได้จาก Freight forwarder บาง Freight forwarder ให้ วงเงินลูกค้า ชั้นหนึ่ง เดือนหนึ่งเป็นร้อยล้าน ให้เครติด 90 วัน คนในวงการ Freight forwarder หลายคนพูดเล่นกันว่า ตัวเขาเองเป็นทั้ง บริษัทเงินทุน financeและผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ด้วย
4. บริษัท Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) จะมีความเครือข่ายทั่วโลก มีผู้ส่งออกที่ฉลาดจะให้ บริษัท Freight forwarder ให้บริการเป็น เลขานุการส่วนของผู้ส่งออก หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ในการจองตั๋วเครื่องบิน ในการจองโรงแรม ในการรับส่งสนามบิน ตลอดจนจัดตารางนัดหลาย ผู้นำเข้า ในประเทศที่ผู้ส่งออกจะเดินทางไปเจรจา พร้อมทั้งเป็นล่ามแปล บ้างก็สนิทถึงขนาดเวลามีปัญหาเรื่องกฎหมาย ก็ให้ เครือข่ายของ Freight forwarder(เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) ช่วยหาทนาย และเป็นตัวแทนในการถ่วงเงินกับผู้นำเข้าที่ไม่ดี บางก็เรียกใช้ Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)ในการตรวจสอบผู้นำเข้าที่เริ่มค้าขาย หรือ แนะนำลูกค้า ของ Freight forwarder(เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) ที่ใช้บริการอยู่แล้ว ให้ได้มีโอกาสทำการค้าด้วยกัน
มีหลายครั้งที่เป็นการค้าขายครั้งแรก ผู้ส่งออกจะให้ เครือข่ายของ Freight forwarder ช่วยในการเก็บเงินมูลค่าสินค้า ก่อนปล่อยสินค้าให้ผู้นำเข้า
5. บริษัท Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)จะมีความสามารถในการให้คำปรึกษากับผู้ส่งออก เรื่อง พิธีการศุลกากร และสามารถตรวจสอบกฎระเบียบต่างๆ ในประเทศปลายทาง มีการแจ้งให้ลูกค้า ทราบถึง สถานการณ์ในท่าเรือ หรือ
ข้อห้ามต่างๆ เพราะเครือข่ายจะแจ้งให้ทราบ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องเกี่ยวกับการประท้วงของสหภาพท่าเรือต่างๆ เพื่อไม่ให้ผู้ส่งออกต้องรับภาระในเรื่องค่าเช่าโกดัง หรือค่าปรับต่างๆ
- บริษัท Freight forwarder สามารถจะเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งสินค้าในวินาทีสุดท้ายได้ ว่าจะเปลี่ยนจะทางเรือมาเป็นทางอากาศ หรือทางบก ในบริษัทเดียว ถ้าผู้ส่งออกใช้บริษัท สายเดินเรือ ก็จะปฎิเสธบริการอื่นๆ ในกรณีที่เกิดปัญหาเรื่องการส่งสินค้าผิดท่าเรือ ปลายทาง บริษัท Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) สามารถแก้ปัญหาได้รวดเร็ว และ ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการใช้บริการบริษัทสายเดินเรือโดยตรง
- ในกรณีที่ผู้ส่งออกส่งสินค้าไปผู้นำเข้าที่มีปัญหาเรื่องการเงิน แล้วผู้ส่งออกต้องการเปลี่ยนชื่อผู้นำเข้าก่อนเรื่อถึง หรือ เรือถึงแล้ว บริษัทสายเดินเรือจะไม่แก้ปัญหาอันนี้ แต่ Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) สามารถแก้ปัญหานี้ได้ เพราะ บริษัท Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) ออกใบตราส่งของตนเอง หรือ เรียกว่า HOUSE BILL OF LADING
- บริษัท Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) จะบริการส่งใบตราส่งเรือให้ท่านผู้ส่งออกถึงที่ทำงานท่าน หรือถ้าท่านรีบด่วนก็นัดส่งที่บ้านส่วนตัวก็ย่อมได้
- พนักงานของ บริษัท Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)จะได้รับการฝึกฝนและอบรมในเรื่องการพูดจาและบริการอย่างพิเศษ ผู้ส่งออกจะสามารถติดต่อได้ทั้งทาง โทรศัพท์ ทาง e-mail ทาง SMS ตลอดจน โทรสาร ทั้งนอกเวลางานก็จะรับสายผู้ส่งออกอย่างเต็มใจ
- บริษัท Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)ในสมัยนี้ จะไม่หนีความรับผิดชอบเพราะบริษัทเหล่านี้จะมีประกันภัยคุ้มครอง หรือ liabilities insurance จึงไม่มีความจำเป็นที่ปฎิเสธการเรียกร้องความเสียหายจากผู้ส่งออก อย่างที่ผู้ส่งออกที่หัวเก่าเข้าใจผิดกัน
- ผู้ส่งออกที่รอบคอบ ควรจะเลือก บริษัท Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)ที่มีการเงินที่มั่นคง และมีเครือข่ายทั่วโลก เพราะได้รับบริการที่ดี และ จะได้ไม่มีปัญหาที่ตามเรื่องเกี่ยวกับการเงินกับท่านผู้ส่งออกในการจ่ายค่าระวางเรือกับสายเดินเรือ
- บริษัท Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)ส่วนใหญ่จะมีหัวใจที่เน้การตลาด และมีความเข้าใจผู้ส่งออกมากกว่า บริษัท สายเดินเรือ หรือ สายการบิน ทั้งมีกำลังพนักงานที่ให้บริการทางด้านการตลาดที่เจาะถึงใจลูกค้าไม่ว่าการติดตามงาน และการบริการยิ้มแย้มตลอดเวลาที่ให้บริการ จะคอยรักษาผลประโยชน์ และประหยัดค่าใช้จ่ายของลูกค้า เพราะมีการอบรมอย่างสม่ำเสมอจากบริษัท หลายบริษัท Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) จะมีกล้าลงทุนในเรื่องกำลังคนทางด้านการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ เป็นจำนวนมากกว่า ส่วนงานอื่น ๆ ถ้า เทียบกับบริษัทสายเดินเรือ หรือ สายการบิน โดยเห็นว่า การบริการเป็นหัวใจสำคัญในธุรกิจของ Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)
- ท่านผู้ส่งออกสามารถถามบริการเสริมกับ บริษัท Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) ได้ เช่น การขอรูปถ่ายเวลานำสินค้า บรรจุเข้าตู้คอนเทนเนอร์ หรือ ให้ส่งพนักงานเพิ่มในการสำรวจสินค้าเสียหาย หรือประสานงานกับหน่วยงานราชการ หรือ บริษัท ให้บริการทางอบยารมควัน หรือ บริษัทที่ทำการสำรวจสินค้าเสียหาย (surveyor)
- บริษัท Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)โดยเฉพาะทางอากาศ จะถูกบังคับโดยสมาคมว่าจะต้องส่งพนักงานฝ่ายการตลาดไปรับการอบรมเรื่องสินค้า อันตราย ซึ่งก็แสดงถึงการมีส่วนรวม และ ช่วยบริษัทสายการบินในการควบคุมและลดความเสี่ยงในความเสียหายเกี่ยวกับสินค้าอันตราย แสดงถึงมาตรฐาน และ ความเป็นมืออาชีพของธุรกิจFreight forwarder ที่ไม่ใช่แค่ นายหน้าจับถือมือเปล่า หาเงินอย่างที่หลายคนในวงการอื่นกล่าวหา
- ถ้าผู้ส่งออกมีปัญหาเรื่องการส่งออกสินค้า อย่าลังเลใจ สอบถามไปที่บริษัท Freight forwarder ให้ช่วยแก้ปัญหา ไม่ว่าท่านจะไม่เคยใช้บริการเขา เขาจะยินดีให้คำแนะนำ และ อาจจะช่วยท่านแก้ปัญหาได้ เมื่อครั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิมีผลกระทบจากการประท้วงปัญหาทางด้านการเมือง บริษัท Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)ก็สามารถแก้สถานการณ์ได้โดยการขนส่งทางรถบรรทุกสินค้าไปสนามบินปีนังและส่งสินค้าที่ตกค้างในสนามบินไทยไปอย่างราบรื่น ช่วยบรรเทาความเสียแก่ผู้ส่งออก
- ในกรณีที่ผู้ส่งออกมีการค้าขายกับผู้นำเข้าที่ไม่มีใบอนุญาตนำเข้าสินค้า หรือไม่มีความรู้เรื่องขั้นตอนการนำเข้า Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)จะมีเครือข่ายที่สามารถให้บริการทางด้านการค้า หรือ Trading firm ซึ่งจะเรียกเก็บแค่ค่าบริการนายหน้าตัวแทนการค้า ประมาณ 1-3% ของราคา CIF ทำให้การดำเนินธุรกิจได้อย่างสะดวก
- ผู้ส่งออกต้องมีวิสัยทัศน์ ผมเคยไปติดต่อลูกค้าที่สำเพ็งรายหนึ่ง เขามีความคิดผิด ๆ ว่า Freight forwarder เป็นนายหน้าค่าระวางเรือและไม่ต้อนรับ พนักงานการตลาดของ Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) แต่สิ่งที่ผมพบก็คือ เขาไม่มีความรู้ด้านอื่นเรื่องการขนส่งหลายรูปแบบ ซึ่ง Freight forwarder มีความชำนาญมาก เป็นที่น่าเสียดายมาก ที่ เขาขาดโอกาสในการขายไปประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเขาไม่ยอมต้อนรับ พนักงานการตลาดจากบริษัท Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์)และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
- ในการกรณีที่ผู้ส่งออกขายเครื่องจักร หรือสินค้าที่มีโครงสร้างใหญ่ Freight forwarder(เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) ก็จะมีทีมงานที่เชี่ยวชาญในการสำรวจเส้นทางการขนส่งและ จัดหาวิศวกร เครื่องมือต่างๆ ในการติดตั้งได้
- ในกรณีที่ ผู้ส่งออกมีสินค้าตัวอย่างส่งไปงานแสดงโชว์ หรือ ส่วนประกอบเครื่องจักรที่สำคัญ Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) ก็จะให้บริการทางด้าน คนถือสินค้าไปให้ หรือ เรียกว่า Hand carry โดยจะถือไปจนถึงมือผู้นำเข้าได้ ในวันเวลาที่ท่านต้องการ โดยไม่มีการเปลี่ยนมือคนถือสินค้า ได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องผ่านขบวนการขนส่งและ พิธีการที่ยุ่ง เสมือนกับท่านถือของไปเอง
อาจจะสรุปได้ว่า ประเทศที่เจริญแล้ว รัฐบาลจะสนับสนุนธุรกิจ Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) มาก เพราะ เป็นตัวช่วยผู้ส่งออกและผู้นำเข้าในการลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเป็นตัวเชื่อมการกระจายสินค้าไปทั่วโลก อย่างครบวงจร แต่เป็นที่น่าเสียดายมาก ที่แนวโน้มธุรกิจเป็นธุรกิจที่ไม่น่าลงทุนเพราะมีการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการที่เลี่ยงภาษี ทำธุรกิจอย่างผิดกฎหมายหลายราย มาทำลาย มีการตัดราคา กันมาก ผู้ประกอบการ Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) ที่ดีต้องประสบปัญหาที่ไม่สามารถมีกำไร และดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงว่า ดูข้อมูลได้จากการวิจัยการเก็บภาษีรายได้ของกรมสรรพากรจะพบ ว่า Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) เป็นธุรกิจที่มียอดเงินเสียภาษีและรายได้น้อยที่สุดในวงการผู้ให้บริการโลจิสติกส์ อื่น ๆ มก็ขอฝากให้ท่านผู้ส่งออกให้การสนับสนุนธุรกิจ Freight forwarder (เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์) ที่ดีให้ยังคงอยู่กับประเทศไทย
ครั้งต่อไปผมจะขอเล่าเรื่อง multimodal transport operator ผู้ประกอบการขนส่งหลายรูปแบบ ให้อ่าน ซึ่งเป็นการพัฒนาอีกกว้าของวงการโลจิสติกส์ ขอให้สวัสดีปีใหม่ ขอให้ผู้ส่งออกรับข้อมูลข้างต้นจากผม และ เปิดใจ รับสิ่งใหม่ และ พัฒนาธุรกิจตลอด ขออัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก จงดลบันดาลให้ท่านทั้งหลายจะประสบผลสำเร็จในการส่งออกให้มากขึ้น ขอบคุณครับ
หยก แสงตะวัน