ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๓๔)
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
ผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 85 วรรค 4 แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากรฉบับที่ 30 พ.ศ 2534 อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ผู้ประกอบการให้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและประสงค์จะเริ่มประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มมีสิทธิ์ยื่นแบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มพร้อมกับการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้าตามแบบคำขอที่แนบท้ายประกาศนี้โดยให้ถือเป็นการยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้อีกวิธีหนึ่ง
ข้อ 2 ผู้ประกอบการตามข้อ 1 มีสิทธิ์ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้าก่อนวันเริ่มประกอบกิจการได้ในเมื่อ
1 ผู้ประกอบการดังกล่าวมีแผนงานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าได้เตรียมการเพื่อประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและ
2 มีการดำเนินการเพื่อเตรียมประกอบกิจการอันเป็นเหตุให้ต้องมีการซื้อสินค้าหรือบริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น การก่อสร้างโรงงาน การก่อสร้างอาคารสำนักงาน หรือการติดตั้งเครื่องจักร
ข้อ 3 ผู้ประกอบการซึ่งประกอบกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามประเภทที่กำหนดในมาตรา 81/3 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร ต้องแจ้งต่ออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร โดยให้ระบุในแบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพื่อขอเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
ข้อ 4 ให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้าโดยแสดงรายการให้ถูกต้องครบถ้วนและต้องจัดเตรียมเอกสารตามแบบคำขอที่แนบท้ายประกาศนี้พร้อมที่จะแสดงเอกสารตัวจริงต่อเจ้าพนักงานสรรพากรด้วย
ข้อ 5 ให้เจ้าพนักงานสรรพากรตรวจสอบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ยื่นผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่าผู้ประกอบการที่ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้แสดงรายการถูกต้องครบถ้วนหรือไม่และตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนดำเนินการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการ
กรณีผู้ประกอบการที่ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หากผู้ประกอบการแสดงรายการในแบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ครบถ้วนหรือแสดงรายการในแบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วแต่เข้าลักษณะดังต่อไปนี้ไม่ให้จ้างพนักงานสรรพากรออกหมายภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการ
1 ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ประกอบการแสดงรายการในคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นเท็จ
2 ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ประกอบการหรือผู้มีอำนาจกระทำการแทนผู้ประกอบการเป็นตัวแทนเชิดของเจ้าของกิจการที่แท้จริง
3 ปรากฏข้อเท็จจริงว่าไม่มีสถานประกอบการจริงตามที่ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
4 ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ประกอบการใช้สำนักงานกฎหมายหรือสำนักงานบัญชีของบุคคลอื่นเป็นสถานประกอบการเว้นแต่กรณีเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักร
5 ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ประกอบการไม่ได้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ใช่ผู้ประกอบการซึ่งขายสินค้าหรือให้บริการที่แท้จริง
6 ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ประกอบการมิได้แสดงเอกสารหลักฐานตามข้อ 2 และข้อ 4 ต่อเจ้าพนักงานสรรพากรให้ครบถ้วนที่ตามเจ้าพนักงานสรรพากรร้องขอ
ข้อ 6 ให้เจ้าพนักงานสรรพากรดำเนินการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20) ให้แก่ผู้ประกอบการกรณีผู้ประกอบการมีสถานประกอบการหมายแห่งให้ออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นรายสถานประกอบการ
ข้อ 7 ให้ผู้ประกอบการเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนนับแต่วันที่ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นแต่กรณีที่เจ้าพนักงานสรรพากรไม่ออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการเพราะเข้าลักษณะตามข้อ 5 วรรค 2 ถือว่าผู้ประกอบการดังกล่าวมิได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนตั้งแต่วันที่ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้าตามประมวลรัษฎากร
กรณีผู้ประกอบการมีสถานประกอบการหลายแห่งในขณะขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแต่ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มโดยระบุเฉพาะสถานประกอบการที่เป็นสำนักงานใหญ่มิได้ระบุสถานประกอบการแห่งอื่นๆไว้ในคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วยให้ถือว่าสถานประกอบการแห่งอื่นๆนั้นเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนในวันเดือนปีเดียวกันกับสำนักงานใหญ่
ผู้ประกอบการสามารถพิมพ์คำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากรที่มีเลขที่อ้างอิงเพื่อใช้เป็นเสมือนใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้จนกว่าจะได้รับใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ 20)
ข้อ 8 ผู้มีอำนาจออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้แก่บุคคลดังต่อไป
1 สรรพากรพื้นที่หรือผู้ที่สรรพากรพื้นที่มอบหมายสำหรับผู้ประกอบการที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ในเขตท้องที่รับผิดชอบของสำนักงานสรรพากรพื้นที่นั้น
2 ผู้อำนวยการกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่หรือผู้ที่ผู้อำนวยการกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่มอบหมายสำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่
ข้อ 9 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับสำหรับการยื่นคำขอตั้งแต่วันที่ 20 เมษายนพ. ศ. 2563 เป็นต้นไป
เอกสารแนบ